The County Fair
for Established's Day
#พืชพรรณบรรเลง
สถานที่แห่งนี้อาจไม่เป็นที่รู้จักของนักเดินเรือเท่าไรนัก สถานที่แห่งนี้ไม่ใช่ย่านที่โปรดปรานในการพำนักของเหล่านักเดินทาง หากแต่เหล่าพ่อค้าพืชพรรณต่างรู้ดีถึงกิตติศัพท์เกี่ยวกับทรัพย์สมบัติที่เกาะอัลเทอร์เนทซุกซ่อนไว้ใต้ฝ่าเท้า
หาใช่ทองคำหลายล้านตัน หรือเพชรนิลจินดาที่ต้องใช้เวลาเจียรไน ซ้ำยังต้องขุดค้นกันจนทำลายทิวทัศน์อันงดงามและเงียบสงบของที่แห่งนี้
หากแต่สมบัติอันล้ำค่าที่ไม่อาจฉกฉวยและหาสิ่งใดทดแทนก็มิอาจเทียบเทียมได้นั้น คือผืนดินที่เต็มไปด้วยแร่ธาตุอันเหมาะสมจะให้เมล็ดพันธุ์แตกยอดอ่อน สายฝนชุ่มฉ่ำที่นำพาซึ่งความชุ่มชื้นให้เหล่าพืชพรรณได้เติบโตผลิดอกออกใบ และแสงแดดอ่อนๆที่มอบความสดใสให้แก่ผลผลิตที่กินพื้นที่ของชาวไร่บนเกาะแห่งนี้ไปกว่าครึ่ง
เมื่อเรือจอดเทียบท่า หรือรถไฟเทียบชานชลา พวกท่านจะได้พบกับตัวเมืองของเกาะอัลเทอร์เนต พวกเราเรียกมันว่า “อัลเตอร์ทาวน์” เมืองเล็กๆ ที่มีร้านรวงให้ได้เลือกสรรจัดการความประสงค์ของท่าน ไม่ว่าจะร้านตัดเสื้อ ร้านขายเนื้อ แผงขายปลาสดๆ คลินิกของหมอผู้เชี่ยวชาญ ร้านรับซื้อของเก่า บาร์ชิลๆ กับเบียร์นุ่มลิ้น และหากท่านเป็นสาวกขนมหวาน เชื่อเถิดว่ารสชาติที่หากได้ลิ้มลองคงยกเข้าคลังแห่งความโปรดปรานได้อย่างง่ายดาย แต่บนเกาะอัลเทอร์เนต นั้นยังไม่ได้สิ้นสุดเพียงเขตคร่ามของย่านค้าขายในเมือง
อย่างที่บอกไปก่อนหน้า, เกาะแห่งนี้เป็นสวรรค์ที่แสนใจดีของชาวไร่ และหากท่านเช่ารถม้าจากบาร์ตรงหัวมุมถนนเดินทางต่อไป ท่านจะได้พบกับทิวทัศน์ที่ไม่อาจซึมซาบได้หมดจดผ่านภาพวาดหรือคำกล่าวเล่าขานของผู้เคยมาเยือนอย่างแน่นอน
ทางดินลูกรังไม่ได้น่าหงุดหงิดเท่าไหร่ เมื่อชาวบ้านใช้สัญจรอยู่เสมอ พวกมันเข้าที่เข้าทางไร้วี่แววเนินดินให้ก้นกบกระเทือนก่อนถึงที่หมาย กระทั่งกีบเท้าของม้าและล้อเกวียนพาท่านผ่านพ้นเขตเมืองที่แสนวุ่นวาย(แม้เพียงน้อยนิดเมื่อเทียบกับลอนดอนหรือปารีส)
ต้นเชอร์รี่ริมทางที่ผลิดอกสีขาวบานสะพรั่งต้อนรับอย่างใจดี ราวกับเจ้าสาวแสนสวยที่อยู่ในชุดแต่งงานหมดจดกับผ้าคลุมหน้าเบาบางโบกสะบัดไปกับสายชมโชยอ่อน พวกมันพัดผ่านเลยไปยังทุ่งหญ้ากว้างไกลสุดลูกตา ทั้งยังเริงร่าเต้นรำอย่างแสนสุข ส่งกลิ่นเขียวขจีคลอเคล้ากลิ่นไอจากมหาสมุทรที่โอบรอบทั่วผืนดินชวนให้ผู้คนปลอดโปร่ง
เมื่อท่านนั่งบนเกวียนเทียมนั้นได้สักพัก ทอดสายตามองยอดหญ้าเหล่านั้นเพียงไม่ถึงชั่วโมงดี ท่านจะพบกับอัญมณีที่ไม่อาจหยิบฉวยได้ มันถูกบรรจุอยู่ใจกลางผืนดินอุดมสมบูรณ์
ชาวบ้านเรียกมันว่า ทะเลสาบแวววาว, ยามผิวน้ำกระเพื่อมเป็นคลื่นน้อยๆ ด้วยสายลมช่างหยอกล้อ เมื่อนั้นแสงแดดแสนอบอุ่นส่องกระทบ มันส่องประกายแวววาวทอแสงวิบวับชวนให้จับจ้อง ราวกับเพชรที่ถูกเจียรไนอย่างประณีตด้วยช่างฝีมือดีอย่างสายลมและแสงแดด มันถูกปกป้องโอบล้อมด้วยกอดอกไม้ป่าที่ขึ้นแซมกอหญ้าและพืชที่โหยหาน้ำเป็นพิเศษ ราวกับเป็นรั้วรอบขอบชิดที่ธรรมชาติตั้งใจตั้งตระหง่านไว้ราวกับเอ่ยโดยนัยว่าอัญมณีตรงหน้าคือสมบัติที่เลยผ่านการเวลามาจนกลายเป็นสิ่งของมีค่าที่จับต้องได้ หากแต่ไม่อาจขยับเขยื้อนเคลื่อนไปตั้งไว้ในห้องรับแขกของท่านได้อย่างแน่นอน
อย่าได้อ้าปากค้างนานไป, ปลายทางของท่านนั้นอีกไม่ไกล หากได้ยินเสียงธารน้ำไหลแสดงว่าใกล้ถึงที่หมายเต็มที เพียงเลยสะพานไม้ข้ามลำธารตรงหน้าไปก็จะพบกับต้นโอ๊คใหญ่อายุหลายร้อยปีที่แสนสะดุดตา
นั่นไงล่ะ, ป้ายที่ถูกตอกไว้บนเสาไม้แอช
“ยินดีต้อนรับสู่โอ๊ควิลล์”
เมื่อรถม้าเคลื่อนเลยผ่านเนินนั้นไป ทิวทัศน์กว้างไกลที่เต็มไปด้วยฝูงวัวและฝูงแกะที่มีเจ้าหมาและเด็กชายหญิงต้อนให้อยู่ในสายตา ถัดไปสักหน่อยคือเลือกสวนไร่นาของชาวบ้านโอ๊ควิลล์ที่แสนอุดมสมบูรณ์
ขอกล่าวอีกครั้ง, ยินดีต้อนรับสู่โอ๊ควิลล์
หมู่บ้านชาวไร่, ผืนดินที่พืชพรรณล้วนหลงใหล ผักผลไม้เติบใหญ่อย่างอารมณ์ดี ผู้คนที่รักในวิถีเกษตรกรยิ่งกว่าสิ่งใด ปศุสัตว์ทั้งเล็กใหญ่ต่างให้ผลผลิตอย่างงดงาม
เลือกเสียสิ, ที่ดินของท่าน แล้ววางแผนสร้างบ้านปลูกผัก อย่าลืมเสียล่ะ ว่าไก่กับวัวก็จำเป็น หากไม่อยากลำบากในการเดินทาง เริ่มมองหาม้าพ่อแม่พันธุ์มาเลี้ยงไว้ก็ไม่เลว?
ยินดีต้อนรับสู่อัลเทอร์ทาวน์
ล้อรถม้าหมุนไปตามทาง พาท่านเดินทางไปพบพานสิ่งใหม่ คนใหม่
ที่จะกลายเป็นรอยประทับในความทรงจำของท่านโดยไม่อาจลบเลือน
ทำความรู้จักตัวละครที่ผู้เล่นไม่ได้ควบคุม (NPC) ทุกคน
v